ลักษณะทั่วไป ไม้ต้นขนาดใหญ่ สูง 12-20 ม. ขนาดทรงพุ่ม 4-6 ม. ไม่ผลัดใบ ทรงพุ่มรูปเจดีย์หรือรูปกรวยกว้าง แน่นทึบ โคนต้น เป็นพูหรือร่อง เปลือกต้นสีน้ำตาลอมเทา แตกหลุดล่อนเป็นแผ่นบาง
ใบ ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับหรือเป็นกลุ่ม รูปแถบหรือรูปหอกเรียว กว้าง 1-2 ซม. ยาว 7-15 ซม. ปลายใบและโคนใบแหลม ขอบใบเรียบ โค้งเป็นรูปดาบ แผ่นใบหนาและแข็ง สีเขียวเข้ม เส้นกลางใบนูนเด่น ทั้งสองด้าน ก้านใบยาว 0.2-0.5 ซม.
ดอก สีเหลืองอ่อน ดอกแยกเพศแยกต้น ดอกเพศผู้ออกเป็นช่อแบบหางกระรอกแคบๆ กว้าง 0.5-1 ซม. ยาว 2-5 ซม. ช่อดอกห้อยลง มักจะออกช่อเดียวแต่บางครั้งออก 2-3 ช่ออยู่ด้วยกัน ดอกเพศเมียออกเดี่ยวๆ บนฐานที่มีเนื้อหนารูปถ้วย กว้าง 0.5-1 ซม. ยาว 1-1.6 ซม.มีกาบหุ้มบริเวณโคนก้านออกดอกเดือนมี.ค.- เม.ย.
ผล ผลสดแบบมีเนื้อเมล็ดเดียว รูปมนรีถึงรูปไข่ สีม่วงอมดำ มีนวลสีขาว ก้านผลสีเขียวมีเนื้อหนารูปถ้วย เมล็ดแข็งมีเนื้อบางๆ ห่อหุ้ม เมล็ดสีน้ำตาลอมดำ ติดผลเดือน ก.ย.-ต.ค. ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด และตอนกิ่ง
นิเวศวิทยา พบตามป่าดิบที่มีการรบกวนน้อย ที่ความสูง 1 ,000-1,400 ม. จากระดับน้ำทะเล ยกเว้นทางภาคใต้
สรรพคุณและประโยชน์
ราก ฝนผสมมะนาว ดื่มและทารอบๆ แผล แก้พิษงูและพิษแมลงสัตว์กัดต่อย
เปลือกต้น แก้ลมวิงเวียน ใจสั่น แก้ไข้หวัด แก้กำเดา ขับลมในลำไส้ แก้ธาตุพิการ
ใบ ต้มน้ำดื่มรักษาโรคปวดตามข้อ ตามกระดูก
ผล รับประทานได้
ข้อมูลบางส่วนจาก https://medthai.com